วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559

ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 66 ปีการศึกษา 2559

       ถึงเวลาที่เหล่าเด็กนักเรียนตัวน้อยจะออกมาแสดงฝีมือให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายได้ประจักษ์ ในงานศิปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 66 ประจำปีการศึกษา 2559 เวทีที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนและครูมาเปิดหูเปิดตา หาประสบการณ์ ได้แสดงฝีไม้ลายมือ ให้สาธารณชนได้รับรู้ถึงความมานะ พยายาม ได้ฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี

มีอะไรให้แสดงฝีมือบ้าง
       มีการแข่งขันอยู่ด้วยกัน 14 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
  • 1. ปฐมวัย
  • 2. ภาษาไทย
  • 3. คณิตศาสตร์ 
  • 4. วิทยาศาสตร์
  • 5.นักบินน้อย สพฐ.
  • 6. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
  • 7. สุขศึกษาและพลศึกษา
  • 8. ศิลปะ (ทัศนศิลป์ ดนตรี และนาฏศิลป์)
  • 9. การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานอาชีพ  คอมพิวเตอร์ )
  • 10. หุ่นยนต์
  • 11. ภาษาต่างประเทศ
  • 12. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
  • 13. ศึกษาพิเศษ โรงเรียนเรียนร่วม
  • 14. การศึกษาพิเศษ เฉพาะความพิการ
แต่ละกลุ่มก็มีรายละเอียดแตกต่างกันออกไป แตกออกเป็นกิจกรรมย่อยอีกหลายกิจกรรม และแต่ละกิจกรรมก็มีเกณฑ์การแข่งขันแตกต่างกันออกไป ซึ่งเกณฑ์การแข่งขันสามารถหาโหลดได้จากเวปไซต์ขงเขตพื้นที่ฯ ที่ตนเองสังกัด หรือจากเวปไซต์งานศิลปะฯ โดยตรงก็ได้

       ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าการแข่งขัน ก็ต้องมีแพ้มีชนะ เด็กนักเรียนตัวล็กๆ บางครั้งก็ยังไม่รู้จัก รู้เพียงแต่ว่า เมื่อมาแล้วตนเองก็ต้องชนะได้รับรางวัลกลับไป เมื่อไม่เป็นดังหวังก็ย่อมเสียใจ ตรงส่วนนี้ก็คงเป็นหน้าที่ของคุณครูที่ต้องอธิบายให้หนูน้อยเข้าใจคำว่า น้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เพื่อสร้างให้เด็กไทย เป็นเด็กดีในอนาคต

ติดตามข้อมูลการแข่งขันได้ที่ http://www.sillapa.net/home/

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

คำขวัญวันวิทย์

คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2532 : พิทักษ์สิ่งแวดล้อมของชาติ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2533 : เพิ่มคุณค่าทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2534 : ขจัดมลพิษทุกชีวิตจะปลอดภัย
          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2536 : วิทยาศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มคุณค่าชีวิต พิทักษ์สิ่งแวดล้อม

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2537 : ขจัดปัญหาน้ำของชาติ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2538 : เทคโนโลยีสารสนเทศก้าวไกล เศรษฐกิจไทยมั่นคง

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2539 : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาชาติไทยให้ก้าวหน้า

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2540 : พัฒนาคน พัฒนาชาติ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2541 : พัฒนาเศรษฐกิจด้วยวิทยาศาสตร์ พัฒนาชาติด้วยภูมิปัญญาไทย

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2542 : วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวไกล เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตไทยที่ยั่งยืน

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2543 : พัฒนาคน พัฒนาชาติ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2544 : วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อเศรษฐกิจและสังคมไทย

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2545 : วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อเศรษฐกิจและสังคมไทย

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2546 : เส้นทางแห่งการค้นพบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คุณค่าแห่งภูมิปัญญา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2547 : เศรษฐกิจของชาติมีปัญหา วิทยาศาสตร์มีคำตอบ

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2548 : วิทยาศาสตร์คือความรู้สู่ความสำเร็จ

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2549 : เศรษฐกิจพอเพียง เคียงคู่ไทย ก้าวไกลด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2550 : วิทยาศาสตร์สร้างปัญญาในสังคม

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2551 : วิทยาศาสตร์สร้างชาติ สร้างอนาคต
          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2552 : วิทยาศาสตร์ก้าวไกล นำไทยก้าวหน้า

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2553 : จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2554 : จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์
          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2555 : จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2556 : ทันโลก ทันวิทย์ จุดประกายความคิดสู่อาเซียน
          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2557 :  จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2558 :  จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม

          - คำขวัญวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 2559 :  จุดประกายความคิด พัฒนาชีวิตด้วยวิทยาศาสตร์ เสริมสร้างชาติด้วยเทคโนโลยี สู่วิถีแห่งนวัตกรรม

ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/27324

วันวิทยาศาสตร์

วันวิทยาศาสตร์ของไทย

       เดือนสิงหาคม นอกจากจะเป็นเดือนของแม่แล้ว ยังเป็นเดือนที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์อีกด้วย นั่นก็คือ หากย้อนวันเวลากับไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 ในวันนั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร สุริยุปราคาเต็มดวง ที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่พระองค์ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาไว้ล่วงหน้าถึง 2 ปี

        โดยพระองค์ทรงพยากรณ์ไว้ว่า จะเห็นหมดดวงและชัดเจนที่สุด คือ ที่หมู่บ้านหัววาฬ ตำบลหว้ากอ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่บริเวณ เกาะจาน ขึ้นไปถึง ปราณบุรี และลงไปถึง จังหวัดชุมพร จึงโปรดฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ไปสร้างค่ายหลวงและพลับพลาที่ประทับ มีคณะนักดาราศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และเซอร์แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์ เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ และร่วมในการสังเกตการณ์ ในกาลต่อมาได้มีการสร้าง "อุทยานวิทยาศาสตร์" ที่อำเภอบ้านหว้ากอขึ้น

 

ต่อมาคณะรัฐมนตรีจึงกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคมของทุกปี เป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" นั่นเอง

มีอะไรในวันวิทยาศาสตร์



       เมื่อปี พ.ศ. 2527 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 18-24 สิงหาคม โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ จนได้รับความสนใจทั้งจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีได้เล็งเห็นความสำคัญ ดังนั้น เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2528 คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดำเนินการจัดงาน "สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ" เป็นประจำทุกปี ระหว่างวันที่ 18-24 สิงหาคม

       กิจกรรมในสัปดาห์วิทยาศาสตร์

      - ร่วมพิธีวางมาลาและเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
      - จัดนิทรรศการเผยแพร่ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
      - จัดกิจกรรมส่งเสริมงานด้านวิทยาศาสตร์ และสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://hilight.kapook.com/view/27324

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2559

มารดา บุพการี ผู้มีความการุณ



       แม่ คำสั้นๆ ที่มีความหมายตามที่ราชบัณฑิตยสถานได้ให้ไว้คือ คำที่เรียกผู้หญิงที่เป็นผู้ให้กำเนิด หรือเลี้ยงดูลูก แต่ความหมายแท้จริงนั้น มีความยิ่งใหญ่เหลือคณานับ เริ่มตั้งแต่มีการปฏิสนธิขึ้นในครรภ์ เมื่อได้ทราบว่ามีอีก 1 ชีวิตอยู่ในอุทร ก็ยังความปีติมาให้จนสุดพรรณนา เฝ้าทะนุถนอม ป้องกัน ระมัดระวังตนเองอย่างเต็มที่ คอยบำรุงร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอย่างสุดความสามารถ เลือกสรรแต่สิ่งดีๆ มาบำรุงโดยหวังเพียงให้อีก 1 ชีวิต ได้สมบูรณ์พร้อมเมื่อออกมาสู่โลกภายนอก ตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ต้องทนทรมานร่างกาย แต่เป็นการทรมานที่ยินยอมพร้อมใจ เต็มใจ และไม่หวังสิ่งตอบแทน เมื่อถึงเวลาสิ้นสุดการรอคอย กลับพบว่า ความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญนั้นมากมายเสียจน ความทรมานที่ผ่านมา 9 เดือน เทียบมิได้เลย แต่ก็ต้องอดทน


       ในที่สุด เมื่อความทรมานสิ้นสุดลง ความปีติสุขก็แผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์ เมื่อพบหน้าคนที่รอคอยมาเนิ่นนาน น้ำตาแห่งความสุขและสมหวังไหลรินอย่างช้าๆ ไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอ่ยออกมา นอกจากคำว่า...รัก ที่เอ่อร้นอยู่เต็มอก ยามลูกน้อยดูดน้ำนมจากอก นับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่แท้จริง ความสุขที่สัญญากับตนเองว่า จะรัก และจะปกป้อง คนๆ นี้ด้วยชีวิตทั้งชีวิต...



เนื้อเพลง หนึ่งเดียวคือแม่ (เพลงประกอบละคร ทองเนื้อเก้า)
อันพระคุณแม่นับคณา เกินกว่ายากหาไหน
พสุธาที่กว้างไกล ยังไม่เท่าแม่นี้
รวมแผ่นฟ้ามหานที พระคุณแม่นี้มากเสียยิ่งกว่า
ยามแม่อุ้มท้อง แสนทรมา
เมื่อลูกเกิดมา แม่นั้นยินดี
ยามหนาวลูกนอนแม่ซ่อนอกไว้
ยามร้อนผิวกายแม่ใช้พัดวี
ยามหิวคราใดแม่ให้ห่วงหา
ป้อนน้ำข้าวปลาลูกแสนเปรมปรีดิ์
พระคุณแม่นั้น อนันต์เหลือที่
ผู้ใดจะมีเสมอเหมือนได้
แม่ทนอ่อนล้า เลี้ยงมาจนใหญ่
แม่ยอมเหนื่อยกาย หาเงินส่งเสียให้เรียน
จงอย่าลืมคิดทดแทนคุณท่าน ก่อนบั้นปลาย
แม่เปรียบดังเหมือนร่มไทรใบแก่แผ่เหนือเศี­ยร
วัยผ่านพ้น สักวันคงเปลี่ยน
คอยหมั่นเพียร เยี่ยมเยียนเมื่อท่านชรา
แม่คงชะแง้อยากแลเห็นหน้า
แม้ลูกไม่มา แม่คงเจ็บช้ำฤดี
อย่าทิ้งให้แม่ได้แต่หงอยเหงา
มองหาลูกเต้าสักคนไม่มี
อย่าคิดลืมแม่เมื่อแก่ชรา
ท่านเลี้ยงเรามาช่วยชุบชีวี
เลือดในอกนั้น กลั่นจนล้นปรี่
น้ำนมแม่นี้ มีค่านับอนันต์
ผู้คนหมื่นแสนทั่วแดนนับล้าน
แต่ว่าแม่นั้นเห็นมีอยู่แค่คนเดียว
ผู้คนหมื่นแสน ทั่วแดนนับล้าน
แต่ว่าแม่นั้น เห็นมีอยู่แค่คนเดียว

Infographic

IG หรือ Infographic คืออะไร ?
 
       Infographic ย่อมาจาก Information Graphic คือ ภาพหรือกราฟิกซึ่งบ่งชี้ถึงข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นสถิติ ความรู้ ตัวเลข ฯลฯ เรียกว่าเป็นการย่นย่อข้อมูลเพื่อให้ประมวลผลได้ง่ายเพียงแค่กวาดตามอง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้คนในยุคไอทีที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลซับซ้อนมหาศาลในเวลาอันจำกัด ( เหตุผลเพราะมนุษย์ชอบและจดจำภาพสวยๆ ได้มากกว่าการอ่าน )  และในปัจุบันกำลังเป็นที่นิยมในโลกของ Social Network
       ประโยชน์และพลังของ Infographic นั้นมีอยู่มากมาย เพราะด้วยแผนภาพสวยๆ นี้ สามารถทำให้คนทั่วๆ ไปสามารถเข้าถึง เข้าใจ ข้อมูลปริมาณมากๆ ด้วยแผนภาพภาพเดียวเท่านั้น ด้วยข้อมูลที่ถูกคัดกรองมาเป็นอย่างดี ทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย เป็นวิธีการนำเสนอข้อมูลเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเราสามารถหยิบยกเรื่องราวเล็กๆ ไปจนถึงเรื่องราวใหญ่โตมานำเสนอ ในมุมมองที่แปลกตา ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ในโลกปัจจุบัน 

ตัวอย่างภาพ Infographic







วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เทคนิคคิดเลขเร็ว 2

          เทคนิคการคิดเลขเร็วนั้นมีมากมายหลายวิธี ที่นำเสนอไปครั้งก่อนก็เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น วันนี้จึงมีเทคนิคคิดคำนวณเกี่ยวกับการหารมาฝากกันบ้าง เพราะการหารให้รวดเร็วนั้นก็เป็นเรื่องยากพอสมควร ลองนำไปฝึกกันดูนะครับ






วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เทคนิคคิดเลขเร็ว 1

          ในวิชาคณิตศาสตร์ หรือในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น ใครเก่งคำนวณหรือคิดเลขไว ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะเราใช้การคิดเลขแทบจะตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า จนกระทั่งเข้านอนอีกทีตนกลางคืน ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดก็ควรที่จะฝึกฝนการคำนวณเอาไว้บ้าง

          เทคนิคคิดคำนวณที่จะนำเสนอในวันนี้ หากมีการฝึกฝนบ่อยๆ จนเกิดความชำนาญ ก็คงมีส่วนช่วยให้การคำนวณง่ายขึ้น ไม่ต้องคอยร้องหาแต่เครื่องคำนวณเพียงอย่างเดียว






          ลองนำไปฝึกกันดูนะครับ